เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ทีมออกเดินทางแต่เช้า เพราะนัดกับเอ้ไว้ เที่ยง ด้วยความที่เห่อมือถือใหม่ อยากลองใช้ระบบดาวเทียมนำร่อง พาไป ก็ได้ผลเลย เส้นทางจากอำเภอเจริญศิลป์ ไปจังหวัดกาฬสินธุ์เพื่อรับป้าโอหวาน ปรากฎบนหน้าจอ สั้นกว่าที่เคยรู้ว่ามี
แล้วทีมก็ขับรถไปตามเส้นทางที่ไม่เคยมีใครค้นพบ นอกจากมือถือจีพีเอส ของเรา (ฮ่าๆ เราหัวเราะด้วยความภาคภูมิใจ)
ถูกต้อง มันพาเราเข้าไปในป่าลึก ถนนลูกรัง ข้ามเขา ปีนป่ายหน้าผา เป็นเส้นทางลัดที่ลึกลับ เราได้แต่ภาวนา "ขอให้กูหลุดออกไปจากป่าดงดิบนี่เสียที"
สาบานได้ว่า เราจะไม่ใช้ระบบดาวเทียมนำร่องนี้อีก ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ถึงกาฬสินธุ์ก็เกือบบ่าย ได้เจอป้าโอหวาน ครั้งแรกในรอบ 5 ปี ชียังสวยสะพรั่ง เหมือนวันที่เคยพบกันครั้งแรก แน่นอนว่าบ้านโอหวานในกาฬสินธุ์ ก็อยู่ในหลีบลึกของสังคมเช่นเคย จำได้ว่า ครั้งหนึ่งสมัยเรียน พวกเราเคยมีความทรงจำดีๆ ด้วยกันที่บ้านโอหวาน
เข้าไปในบ้าน พบว่าโอหวานทำบ้านใหม่ สวยเชียว แม่กับพ่อ ก็ต้อนรับขับสู้ด้วยเมนูกล้วยบวดชี ที่อร่อยที่สุดในโลก (จิ๊ก คอนเฟิร์ม)
ก่อนออกจากบ้าน แม่โอหวาน กำชับให้โอหวานเติมปากเข้มๆ ทำเอาป้าโอหวานของเราถึงกับเสียเซลฟ์ กันเลยทีเดียว อยากบอกแม่ว่า เติมไม่เติมก็มีค่าเท่ากัน (คือสวยเท่าเดิมนั่นแหละ)
ลืมบอกไป โอหวานทำงานแบงก์ออมสิน
จากนั้นก็ไปรับนพ ซึ่งปัจจุบันคุณนพดล ทำงานที่ รพ.มหาสารคาม เวลาว่างนางจะสิงสถิตย์อยู่ร้านเกมป๊อกกี้ ริมคลองสมถวิล (แวะไปอุดหนุนหน่อย เจ้าของร้านชื่อเจ๊ตู่ ปัจจุบันยังชื่อเจ๊ตู่เหมือนเดิม) มองเผินๆ ที่นี่ก็เป็นเพียงแค่ร้านเกมธรรมดา แต่อุดมไปด้วยนักเรียน นักศึกษา ชายหนุ่ม (มิน่า อุดมสมบูรณ์อย่างนี้นี่เอง เพื่อนถึงได้ไม่ยอมเปลี่ยนร้าน)
ครบเซ็ตแล้ว เราทั้งสามก็ออกเดินทางไปยัง ร้านอาหารลึกลับแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นแหล่งนัดพบของบรรดาเพื่อนๆ ที่มาจาก กทม
คีย์เวิร์คคือคำว่า "สะพานสีขาว"
เราวนอยู่ในเมืองมหาสารคามกว่าสามรอบ แต่พวกเราก็ไม่รู้สึกหงุดหงิดแต่ประการใด เพราะเราต่างเข้าใจดีว่า การที่ใครสักคนจะสื่อสารกับเอกรินทร์ แล้วเข้าใจนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย
พอมาถึงร้าน ก็พบกว่า เพื่อนๆ ต่างพร้อมใจกันแต่งดำ โดยมิได้นัดหมาย
คนแรกที่เราพบก็คือ พี่เสก โลโซ มากับเพื่อนอีกคนที่เราไม่รู้จัก คาดว่าจะอยู่วงบอดี้สแลม (คอยดูภาพจากเพื่อนๆ)
เจอ สายป่าน กับพี่โกโก้ (ผู้จัดการส่วนตัว) อยากบอกว่าตัวจริงของพี่โก้ สามีจุ๋มนั้น หล่อกว่าในภาพเยอะมาก และเป็นกันเองกับทุกคน คุยด้วยแล้วสนุกดีไม่มีฟอร์ม
เจอจรัล ที่ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อไปแล้ว (แต่ขอโทษ จนแล้วจนรอด เราก็จำชื่อใหม่ของจรัลไม่ได้) ส่วนเสี่ยต้อย ก็ไม่น้อยหน้าคุณจรัล เพราะเปลี่ยนไปทั้งชื่อและนามสกุล จะเหลือก็แต่ชื่อเล่น "ต้อย" ให้เพื่อนๆ ได้จดจำ ถ้าสงสัยว่าเปลี่ยนชื่อแล้ว อะไรๆ ในชีวิตดีขึ้นหรือไม่ ขอตอบตรงนี้เลยว่า ดีนะ เพราะอย่างน้อย แจ็ค ก็สวยบาดใจเชียวหละ
เจอเอกรินทร์ กับ อ.หนิง ผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้ สวยเกินจะหาคำบรรยายได้หมด ตอนแรกเราเห็นหน้าใสๆ เราก็นึกในใจว่า หล่อนคงโบ๊ะหน้ามาเต็มพิกัด แต่ตอนทานข้าว เรามีโอกาสได้นั่งติด และเพ่งพิศดู แล้วก็ตระหนักว่า
ว่า ชีเกิดมาสวยด้วยธรรมชาติจริงๆ ผิวเนียนของแท้ จนแอบอิจฉาเอกรินทร์ ที่มีแฟนน่ารักขนาดนี้
ได้เจอวุฒิ ที่พกลูกในท้องมาสองคน อวบอ้วน จ้ำม่ำ น่ารัก น่าชัง ฯลฯ วุฒิมาพร้อมกล้อง และฝีมือการถ่ายภาพขั้นเทพ "สามารถถ่ายผีเป็นคนได้" ไม่ชื่อถามกอล์ฟผอมดูก็ได้ พอพูดถึงกอล์ฟผอม เขายังคงเป็นเหมือนเดิม ผมทรงเดิม แต่งตัวเหมือนเดิม พูดเหมือนเดิม ที่สำคัญ "ดำ" เหมือนเดิม (แม้เพื่อนหลายคนจะคอนเฟิร์มว่า กอล์ฟขาวกว่าเดิมก็ตาม"
เสี่ยบอย ในวันวาน กับวันนี้ แตกต่างกันมาก ปัจจุบันดูมีน้ำมีนวล (หัวเราะ) แอบถามไปว่าทำไมถึงได้อวบขนาดนี้ บอยบอกว่า มีช่วงนึงที่เผลอทานเยอะ ต่อมา แม้จะทานน้อยลง แต่มันก็ลงไม่ได้ เสี่ยบอยจึงมีสารรูปอย่างที่เห็น
ส่วนหญิงสาวที่สวยเสมอต้นเสมอปลาย ก็คือนกเอ้ ปัจจุบันมีมิวเซเว่น ขับแล้วนะตัวเอง ตามคอนเซปต์ สวย รวย มีรถขับ
ไม่รู้ว่าพวกเราไปสรรหามุขตลกมาจากไหน กัดกันไป กัดกันมา หัวเราะจนเหงือกแห้ง หน้าเหี่ยวกันไปตามๆ กัน ทำเอาพี่ตั้ม รุ่น 4 ที่หวังว่าจะมาพักผ่อน ถึงกับเหนื่อยหน่ายกับความมึนของน้องๆ
พวกเราปล่อยฮา จนพนักงานเสริฟ มานั่งดูพวกเราปล่อยมุขกันเป็นเรื่องเป็นราว แถมมินิคอนเสิร์ตของ 5 หนุ่มนักร้องเกาหลี (ทีม ต้อย รัล บอย นพ) ก่อนที่ป้าโอ๋ จะมาสะกดทุกโสตประสาทของเพื่อนทุกคน ด้วยการร้องเพลงแบบไม่แคร์ดนตรี เพื่อพิสูจน์ให้คนทั้งโลกเห็นว่า "แค่อ่านหนังสือออก ก็สามารถร้องเพลงได้???"
ป้าโอ๋ และเจ๊ต่าย ขับซีวิคคันงาม มาอวดโฉม สวยทั้งรถ สวยทั้งคนขับ (ส่วนคนที่นั่งมาด้วย ไม่ค่อยแน่ใจ)
ป้าโอ๋ ลงทุนไปรีดผมสวยยยย?? มาเพื่อการณ์นี้ พร้อมกับข่าวดีที่ว่ากำลังสร้างเรือนหอ กับว่าที่สามี และในปี 53 ก็จะได้เวลาเข้าหอลงโรงกันแล้ว สามีสุดหล่อที่ว่า อายุอ่อนกว่าป้าโอ๋นิดหน่อย แต่ป้าแกบอกว่าอายุเป็นเพียงตัวเลข ใจต่างหากที่สำคัญกว่า
ด้านเจ๊ต่าย ยืนยันว่า งานนี้ชีต้องมาคนเดียว คู่หมั้นสุดหล่อไม่มีโอกาสได้ตามมาคุม เพราะนี่เป็นโอกาสที่จะได้รั่วอย่างเต็มที่ ถือคอนเซปต์ที่ว่า แฟน สำคัญน้อยกว่า เครื่องสำอางค์
จากนั้นเจ๊บ๋อม ก็ตามมาสมทบ โดยชีลงทุนปลีกตัวจากการเรียน ปริญญาโท ที่ มมส มาเฮฮากับเพื่อนๆ เจ๊บ๋อม บอกว่าเบื่อที่จะเป็นครูแล้ว ตอนนี้เรียนบริหาร เพื่อต่อไปจะได้เป็น ผู้อำนวยการโรงเรียนหญิง ที่สวยที่สุดในประเทศไทย และประเทศโลกที่สาม
แล้วคนสุดท้ายที่มาปรากฎตัวก็คือป้านุ้ยของพวกเรานั่นเอง ที่มาช้าเนื่องจากชีต้องเดินทางไกลหลายพันลี้ เพื่อพาพี่เต้ย ขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศ พอพี่เต้ยไปพ้นสายตา ป้านุ้ยก็บึ่งรถมาหาเพื่อนในทันที และพอมาถึงก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น นอกจากโพสท่า ถ่ายภาพกับเอ้ และวุฒิ บ้ากล้องสมเป็นเพื่อนกันจริงๆ สาบานได้
นี่เป็นเพียงแค่ช่วงแรก ที่พวกเราได้รวมตัวกัน ยังมีเรื่องราวเกิดขึ้นอีกมายหมายหลังจากนี้ เรื่องราวเก่าๆ สมัยเป็นนิสิต ได้ย้อนมาให้เราได้เล่าขานกันไม่จบสิ้น รวมไปถึงเรื่องราวชีวิตในปัจจุบันของแต่ละคน ก็มีสีสันและสนุกสนานไม่ต่างกัน หลายคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้าไม่มางานนี้ คงจะรู้สึกเสียดายมาก
แต่สำหรับเพื่อนที่ไม่มา พวกเรายังคงถามถึงนะ และคิดว่าถ้าพวกนายมาด้วย คงสนุกมากกว่านี้
ปล. ป้านุ้ยพบหลอดเครื่องสำอางค์บำรุงสาหร่าย หล่นในห้องพักคอนโดของเจ๊ เป็นของใครกรุณาติดต่อเจ๊นุ้ยด่วน
แล้วทีมก็ขับรถไปตามเส้นทางที่ไม่เคยมีใครค้นพบ นอกจากมือถือจีพีเอส ของเรา (ฮ่าๆ เราหัวเราะด้วยความภาคภูมิใจ)
ถูกต้อง มันพาเราเข้าไปในป่าลึก ถนนลูกรัง ข้ามเขา ปีนป่ายหน้าผา เป็นเส้นทางลัดที่ลึกลับ เราได้แต่ภาวนา "ขอให้กูหลุดออกไปจากป่าดงดิบนี่เสียที"
สาบานได้ว่า เราจะไม่ใช้ระบบดาวเทียมนำร่องนี้อีก ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ถึงกาฬสินธุ์ก็เกือบบ่าย ได้เจอป้าโอหวาน ครั้งแรกในรอบ 5 ปี ชียังสวยสะพรั่ง เหมือนวันที่เคยพบกันครั้งแรก แน่นอนว่าบ้านโอหวานในกาฬสินธุ์ ก็อยู่ในหลีบลึกของสังคมเช่นเคย จำได้ว่า ครั้งหนึ่งสมัยเรียน พวกเราเคยมีความทรงจำดีๆ ด้วยกันที่บ้านโอหวาน
เข้าไปในบ้าน พบว่าโอหวานทำบ้านใหม่ สวยเชียว แม่กับพ่อ ก็ต้อนรับขับสู้ด้วยเมนูกล้วยบวดชี ที่อร่อยที่สุดในโลก (จิ๊ก คอนเฟิร์ม)
ก่อนออกจากบ้าน แม่โอหวาน กำชับให้โอหวานเติมปากเข้มๆ ทำเอาป้าโอหวานของเราถึงกับเสียเซลฟ์ กันเลยทีเดียว อยากบอกแม่ว่า เติมไม่เติมก็มีค่าเท่ากัน (คือสวยเท่าเดิมนั่นแหละ)
ลืมบอกไป โอหวานทำงานแบงก์ออมสิน
จากนั้นก็ไปรับนพ ซึ่งปัจจุบันคุณนพดล ทำงานที่ รพ.มหาสารคาม เวลาว่างนางจะสิงสถิตย์อยู่ร้านเกมป๊อกกี้ ริมคลองสมถวิล (แวะไปอุดหนุนหน่อย เจ้าของร้านชื่อเจ๊ตู่ ปัจจุบันยังชื่อเจ๊ตู่เหมือนเดิม) มองเผินๆ ที่นี่ก็เป็นเพียงแค่ร้านเกมธรรมดา แต่อุดมไปด้วยนักเรียน นักศึกษา ชายหนุ่ม (มิน่า อุดมสมบูรณ์อย่างนี้นี่เอง เพื่อนถึงได้ไม่ยอมเปลี่ยนร้าน)
ครบเซ็ตแล้ว เราทั้งสามก็ออกเดินทางไปยัง ร้านอาหารลึกลับแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นแหล่งนัดพบของบรรดาเพื่อนๆ ที่มาจาก กทม
คีย์เวิร์คคือคำว่า "สะพานสีขาว"
เราวนอยู่ในเมืองมหาสารคามกว่าสามรอบ แต่พวกเราก็ไม่รู้สึกหงุดหงิดแต่ประการใด เพราะเราต่างเข้าใจดีว่า การที่ใครสักคนจะสื่อสารกับเอกรินทร์ แล้วเข้าใจนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย
พอมาถึงร้าน ก็พบกว่า เพื่อนๆ ต่างพร้อมใจกันแต่งดำ โดยมิได้นัดหมาย
คนแรกที่เราพบก็คือ พี่เสก โลโซ มากับเพื่อนอีกคนที่เราไม่รู้จัก คาดว่าจะอยู่วงบอดี้สแลม (คอยดูภาพจากเพื่อนๆ)
เจอ สายป่าน กับพี่โกโก้ (ผู้จัดการส่วนตัว) อยากบอกว่าตัวจริงของพี่โก้ สามีจุ๋มนั้น หล่อกว่าในภาพเยอะมาก และเป็นกันเองกับทุกคน คุยด้วยแล้วสนุกดีไม่มีฟอร์ม
เจอจรัล ที่ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อไปแล้ว (แต่ขอโทษ จนแล้วจนรอด เราก็จำชื่อใหม่ของจรัลไม่ได้) ส่วนเสี่ยต้อย ก็ไม่น้อยหน้าคุณจรัล เพราะเปลี่ยนไปทั้งชื่อและนามสกุล จะเหลือก็แต่ชื่อเล่น "ต้อย" ให้เพื่อนๆ ได้จดจำ ถ้าสงสัยว่าเปลี่ยนชื่อแล้ว อะไรๆ ในชีวิตดีขึ้นหรือไม่ ขอตอบตรงนี้เลยว่า ดีนะ เพราะอย่างน้อย แจ็ค ก็สวยบาดใจเชียวหละ
เจอเอกรินทร์ กับ อ.หนิง ผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้ สวยเกินจะหาคำบรรยายได้หมด ตอนแรกเราเห็นหน้าใสๆ เราก็นึกในใจว่า หล่อนคงโบ๊ะหน้ามาเต็มพิกัด แต่ตอนทานข้าว เรามีโอกาสได้นั่งติด และเพ่งพิศดู แล้วก็ตระหนักว่า
ว่า ชีเกิดมาสวยด้วยธรรมชาติจริงๆ ผิวเนียนของแท้ จนแอบอิจฉาเอกรินทร์ ที่มีแฟนน่ารักขนาดนี้
ได้เจอวุฒิ ที่พกลูกในท้องมาสองคน อวบอ้วน จ้ำม่ำ น่ารัก น่าชัง ฯลฯ วุฒิมาพร้อมกล้อง และฝีมือการถ่ายภาพขั้นเทพ "สามารถถ่ายผีเป็นคนได้" ไม่ชื่อถามกอล์ฟผอมดูก็ได้ พอพูดถึงกอล์ฟผอม เขายังคงเป็นเหมือนเดิม ผมทรงเดิม แต่งตัวเหมือนเดิม พูดเหมือนเดิม ที่สำคัญ "ดำ" เหมือนเดิม (แม้เพื่อนหลายคนจะคอนเฟิร์มว่า กอล์ฟขาวกว่าเดิมก็ตาม"
เสี่ยบอย ในวันวาน กับวันนี้ แตกต่างกันมาก ปัจจุบันดูมีน้ำมีนวล (หัวเราะ) แอบถามไปว่าทำไมถึงได้อวบขนาดนี้ บอยบอกว่า มีช่วงนึงที่เผลอทานเยอะ ต่อมา แม้จะทานน้อยลง แต่มันก็ลงไม่ได้ เสี่ยบอยจึงมีสารรูปอย่างที่เห็น
ส่วนหญิงสาวที่สวยเสมอต้นเสมอปลาย ก็คือนกเอ้ ปัจจุบันมีมิวเซเว่น ขับแล้วนะตัวเอง ตามคอนเซปต์ สวย รวย มีรถขับ
ไม่รู้ว่าพวกเราไปสรรหามุขตลกมาจากไหน กัดกันไป กัดกันมา หัวเราะจนเหงือกแห้ง หน้าเหี่ยวกันไปตามๆ กัน ทำเอาพี่ตั้ม รุ่น 4 ที่หวังว่าจะมาพักผ่อน ถึงกับเหนื่อยหน่ายกับความมึนของน้องๆ
พวกเราปล่อยฮา จนพนักงานเสริฟ มานั่งดูพวกเราปล่อยมุขกันเป็นเรื่องเป็นราว แถมมินิคอนเสิร์ตของ 5 หนุ่มนักร้องเกาหลี (ทีม ต้อย รัล บอย นพ) ก่อนที่ป้าโอ๋ จะมาสะกดทุกโสตประสาทของเพื่อนทุกคน ด้วยการร้องเพลงแบบไม่แคร์ดนตรี เพื่อพิสูจน์ให้คนทั้งโลกเห็นว่า "แค่อ่านหนังสือออก ก็สามารถร้องเพลงได้???"
ป้าโอ๋ และเจ๊ต่าย ขับซีวิคคันงาม มาอวดโฉม สวยทั้งรถ สวยทั้งคนขับ (ส่วนคนที่นั่งมาด้วย ไม่ค่อยแน่ใจ)
ป้าโอ๋ ลงทุนไปรีดผมสวยยยย?? มาเพื่อการณ์นี้ พร้อมกับข่าวดีที่ว่ากำลังสร้างเรือนหอ กับว่าที่สามี และในปี 53 ก็จะได้เวลาเข้าหอลงโรงกันแล้ว สามีสุดหล่อที่ว่า อายุอ่อนกว่าป้าโอ๋นิดหน่อย แต่ป้าแกบอกว่าอายุเป็นเพียงตัวเลข ใจต่างหากที่สำคัญกว่า
ด้านเจ๊ต่าย ยืนยันว่า งานนี้ชีต้องมาคนเดียว คู่หมั้นสุดหล่อไม่มีโอกาสได้ตามมาคุม เพราะนี่เป็นโอกาสที่จะได้รั่วอย่างเต็มที่ ถือคอนเซปต์ที่ว่า แฟน สำคัญน้อยกว่า เครื่องสำอางค์
จากนั้นเจ๊บ๋อม ก็ตามมาสมทบ โดยชีลงทุนปลีกตัวจากการเรียน ปริญญาโท ที่ มมส มาเฮฮากับเพื่อนๆ เจ๊บ๋อม บอกว่าเบื่อที่จะเป็นครูแล้ว ตอนนี้เรียนบริหาร เพื่อต่อไปจะได้เป็น ผู้อำนวยการโรงเรียนหญิง ที่สวยที่สุดในประเทศไทย และประเทศโลกที่สาม
แล้วคนสุดท้ายที่มาปรากฎตัวก็คือป้านุ้ยของพวกเรานั่นเอง ที่มาช้าเนื่องจากชีต้องเดินทางไกลหลายพันลี้ เพื่อพาพี่เต้ย ขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศ พอพี่เต้ยไปพ้นสายตา ป้านุ้ยก็บึ่งรถมาหาเพื่อนในทันที และพอมาถึงก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น นอกจากโพสท่า ถ่ายภาพกับเอ้ และวุฒิ บ้ากล้องสมเป็นเพื่อนกันจริงๆ สาบานได้
นี่เป็นเพียงแค่ช่วงแรก ที่พวกเราได้รวมตัวกัน ยังมีเรื่องราวเกิดขึ้นอีกมายหมายหลังจากนี้ เรื่องราวเก่าๆ สมัยเป็นนิสิต ได้ย้อนมาให้เราได้เล่าขานกันไม่จบสิ้น รวมไปถึงเรื่องราวชีวิตในปัจจุบันของแต่ละคน ก็มีสีสันและสนุกสนานไม่ต่างกัน หลายคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้าไม่มางานนี้ คงจะรู้สึกเสียดายมาก
แต่สำหรับเพื่อนที่ไม่มา พวกเรายังคงถามถึงนะ และคิดว่าถ้าพวกนายมาด้วย คงสนุกมากกว่านี้
ปล. ป้านุ้ยพบหลอดเครื่องสำอางค์บำรุงสาหร่าย หล่นในห้องพักคอนโดของเจ๊ เป็นของใครกรุณาติดต่อเจ๊นุ้ยด่วน
เครื่องสำอางค์บำรุงสาหร่าย??!!??
ตอบลบก็อปผอม มาเม้นละ
ตอบลบดีใจนะได้เจอเพื่อนๆอีก
เหมือนวันก่อนๆเลย สนุกมากๆๆๆๆๆๆๆ
แต่เสียดายไม่ได้เจอทุกคน
แต่ก็เข้าใจนะบางคนก็ติดธุระ
บอกเพื่อนอยู่เหมือนกัน
ถ้าแต่งที่อื่นที่ไม่ใช่ภาคอีสานเราก็คงไม่ได้ไป
เหมือนที่แนนบอกแหละ ไปได้เฉพาะบางพื้นที่
ขอแก้ข่าวนิดเรื่องกล้องที่ทำให้ผีเป็นคนได้
เห็นแบบนี้ก็มีคนสนใจอยู่บ้าง
ถึงจะไม่สวยแบบแฟนเอกก็เถอะ
555+
ปล.ไม่รู้จะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่
ไม่รู้จะเจอกันอีกตอนไหน
แต่อยากให้รู้ไม่ว่าเมื่อได
จะคิดถึง"เพื่อน"ตลอดไป ฉันสัญญา
อ้อ... ก็อปผอมเพิ่มอีกนิด
ตอบลบสินมานะหลังทีมกลับไปสักพัก
ลงทุนขี่มอไซด์มาจากขอนแก่น
แต่ไม่ถึงครึ่ง ชม. ยอดก็มาถึง
พร้อมด้วยครอบครัว
นุ้ย....
ตอบลบคิดถึงเพื่อนๆจังเลย ....
ปล. ใครลืมเครื่องสำอางที่คอนโดนุ้ย กรุณาติดต่อรับคืนสารคามนะจ๊ะ อิอิอิ
เมื่อไหร่จะได้เจอกันอีกน้อ ส่งสัยงานแต่งเจ๊โอ๋ที่บุรีรัมเปอร์แน่ๆเลย 555555555
แก้ข่าว ไม่ได้ไปส่งพี่เต้ยขึ้นเครื่องไปต่างประเทศนะ แต่ไปส่งพี่ชายกลับภูเก็ตจ้า แต่มีพี่เต้ยไปเป็นเพื่อนจ้า
ไม่เห็นมีรูปงานแต่งเลยล่ะ พี่น้อง
ตอบลบอยากไปเหมือนกัน คิดถึงพวกแกทุกคนแหล่ะ
โอกาสหน้าคงได้เจอกันนะ
แอ๊ดคุง...
รออ่านภาค 2 อยู่นะจ้ะ คิดถึงเพื่อนมากมาย งานหน้าจัดตั้งแคมป์กัรอบกองไฟกันดีไหมทีม
ตอบลบเค้าเสนอ เขาใหญ่
นกเองจ้า
ตอบลบถึงนกไม่ได้อยู่เอกคอม แต่เพื่อนๆก็ให้ความเป็นกันเอง น่ารักมากมาย
สนุกสนานมากเลย ถ้ามีโอกาสอยากไปเจอเพื่อนๆอีกจ้า
..แม้ไม่ได้อยู่เอกคอม นกก็มีความรู้สักผูกพันธ์แบบบอกไม่ถูกเลย..
.......คิดถึงเพื่อนๆน๊าๆๆ....